ต้นไม้ในพุทธประวัติ
ต้นไม้ในพุทธประวัติต้นโพธิ์ (ต้นอัสสัตถะ)
ต้นพระศรีมหาโพธิ์
ต้นพระศรีมหาโพธิ์
ต้นโพธิ์ (ต้นอัสสัตถะ)
“ต้นอัสสัตถะ” หรือ “ต้นอัสสัตถพฤกษ์” นั้น รู้จักกันดีในชื่อของ ต้นโพ, ต้นโพธิใบ, ต้นโพธิ์ หรือพระศรีมหาโพธิ ชาวลังกาเรียกว่า Bohd tree และชาวอินเดียเรียกว่า Pipal นี้นับได้ว่าเป็นต้นไม้ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในพระพุทธประวัติอีกชนิดหนึ่ง เพราะเจ้าชายสิทธัตถะราชกุมาร ในระหว่างบำเพ็ญพรตเพื่อหาสัจธรรมนั้น ได้ทรงเลือกนั่งประทับที่โคนต้นโพธิ์จนกระทั่งพระองค์ได้ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาน คือ อริยสัจ 4 อันประกอบด้วย ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค เมื่อวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6
แม้พระองค์จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ก็ยังต้องทรงใช้พลังจิตรบกับพวกมาร (การเอาชนะกิเลสฝ่ายต่ำ) ก็โดยประทับอยู่ใต้โคนต้นโพธิ์อีกเช่นกัน เพราะโพธิ์มีร่มเงาเหมาะแก่การพักพิงและบำเพ็ญพรตเป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบันต้นโพธิ์ที่สำคัญที่สุดอยู่ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย แต่ว่าไม่ใช่ต้นเดิมแต่ครั้งพุทธกาล เป็นต้นที่แตกหน่อมาจากต้นเดิม และกล่าวกันว่า ต้นโพธิ์ที่พระพุทธองค์ประทับเพื่อรวบรวมพระหฤทัยให้บรรลุถึงสัจธรรมนั้น ได้ถูกประชาชนผู้มีมิจฉาทิฏฐิ และคนนอกศาสนาโค่นทำลายไปแล้ว แต่ด้วยบุญญาภินิหารเมื่อได้นำน้ำนมโคไปรดที่ราก จึงมีแขนงแตกขึ้นมาและมีชีวิตอยู่มาอีกนานก็ตายไปอีก แล้วกลับแตกหน่อขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง ต้นที่เหลืออยู่ในปัจจุบันนับว่าเป็นช่วงที่สี่แล้ว
ประวัติของต้นโพธิ์ทั้ง 4 มีดังนี้
ต้นโพธิ์ต้นแรก เป็นสหชาติเกิดขึ้นพร้อมกับวันที่พระโพธิสัตว์ประสูติ ตามพระพุทธประวัติกล่าวว่า สหชาติมี 7 ประการ คือ กาฬุทายีอำมาตย์, ฉันนะ, อานนท์พุทธอนุชา, พระนางพิมพา, ม้ากัณฑกะ, ขุมทรัพย์ 4 มุมเมือง และต้นอัสสัตถพฤกษ์ (ต้นโพธิ์)
ต้นโพธิ์นี้จะผุดขึ้นมาเองจากพื้นเป็นปาฏิหาริย์ หรือจะมีคนมาปลูกในวันนั้นพอดีก็สุดจะทราบได้ เป็นพันธุ์ไม้ที่พระโคตมพุทธเจ้าทรงประทับตรัสรู้ พระองค์ได้รับการถวายหญ้า 8 กำ จากโสตถิยะพราหมณ์ เพื่อปูเป็นที่ประทับเมื่อใกล้รุ่งของวันเพ็ญ เดือน 6 จึงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และหลังจากที่พระพุทธองค์เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานแล้ว มีผู้เลื่อมใสศรัทธามากราบไหว้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ต้นโพธิ์ต้นนี้มีอายุมาจนถึงสมัยพุทธศตวรรษที่ 2 พระเจ้าอโศกมหาราช กษัตริย์ชาวพุทธผู้ยิ่งใหญ่ ทรงเคารพรักต้นโพธิ์เป็นอย่างยิ่ง จะเสด็จไปนมัสการต้นโพธิ์อยู่ตลอดเช้าเย็น พระมเหสีของพระเจ้าอโศกมหาราช คือ พระนางติษยรักษิต (มหิสุนทรี) ไม่พอพระทัยที่พระเจ้าอโศก เอาใจใส่ต้นโพธิ์มากเกินไป จึงได้ให้คนเอายาพิษเพื่อทำลายต้นโพธิ์
บางแห่งบอกว่า พระนางเอาเงี่ยงกระเบนมีพิษมาทิ่มรากต้นโพธิ์ จนต้นโพธิ์ตาย เมื่อพระเจ้าอโศกทรงทราบ ถึงกับทรงวิสัญญีภาพล้มสลบลง เสียพระทัยเป็นอย่างยิ่ง ให้คนนำเอาน้ำนมโค 100 หม้อ ไปรดที่บริเวณรากของต้นโพธิ์ทุกวัน และพระองค์เองก็ทรงคุกเข่าที่ต้นโพธิ์นี้ พร้อมกับตั้งสัตยาธิษฐานขอให้มีหน่องอก ก็เกิดอัศจรรย์มีหน่อโพธิ์งอกขึ้นมา พระองค์จึงสั่งให้ก่อกำแพงล้อมรอบเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับต้นโพธิ์อีก แล้วพระองค์ได้นำมาปลูกเป็นต้นที่ 2 รวมอายุของต้นโพธิ์ต้นแรกประมาณ 352 ปี
ต้นโพธิ์ต้นที่ 2 มีอายุยืนมาจนกระทั่งกษัตริย์ชาวฮินดูแห่งแคว้นเบงกอล ใจทมิฬหินชาติ นามว่า สาสังกา ได้มาพบกับต้นพระศรีมหาโพธิ์ ก็ไม่พอพระทัยเนื่องเพราะพระองค์นับถือฮินดู จึงได้ให้คนทำลายต้นพระศรีมหาโพธิ์ และทำลายพระพุทธรูปในวิหารทั้งหมด แต่อำมาตย์ชาวพุทธไม่กล้าทำลายพระพุทธรูป จึงได้ใช้วิธีเอาแผ่นอิฐมาก่อเป็นกำแพงกำบังพระพุทธรูปไว้อย่างมิดชิด พร้อมกับตั้งประทีปโคมไฟบูชาไว้ภายในกำแพงที่กั้นปิดไว้ ภายหลังพระเจ้าสาสังกาได้รับผลกรรมเกิดแผลพุพองทั่วร่าง อาเจียนเป็นพระโลหิต และสิ้นพระชนม์อย่างอนาถ รวมอายุต้นโพธิ์ต้นที่ 2 ได้ 871 ปี ถึง 891 ปี
ต้นโพธิ์ต้นที่ 3 หลังจากนั้นไม่นาน พระเจ้าปูรณวรมา กษัตริย์ชาวพุทธ ได้มาพบเห็นต้นพระศรีมหาโพธิ์ล้มเช่นนั้น ก็เสียพระทัย จึงรับสั่งให้ทหารพร้อมด้วยชาวบ้านร่วมกันไปรีดน้ำนมโคได้ 1,000 ตัว ครั้นได้น้ำนมมาแล้ว พระองค์จึงทรงตั้งจิตอธิษฐานรดน้ำนมนั้นลงตรงบริเวณหลุมต้นโพธิ์ต้นเก่าโดยรอบว่า ถ้ามาตรแม้นหน่อแห่งต้นโพธิ์ยังไม่งอกขึ้นตราบใด ข้าพเจ้าก็จักไม่ยอมจากไปจากสถานที่นี้โดยตราบนั้น ข้าพเจ้าขอยอมถวายชีวิตเพื่อบูชาอุทิศต่อพระศรีมหาโพธิ์ตลอดชั่วลมปราณ
ด้วยสัจจวาจากิริยาธิษฐานของพระองค์นี้นี่แล หน่อน้อยที่ 3 ของต้นโพธิ์ก็งอกขึ้นมาอย่างอัศจรรย์ พระองค์เมื่อได้ทอดพระเนตรเห็นหน่อน้อยงอกขึ้นมา ก็เกิดปีติโสมนัส จึงจัดการสร้างกำแพงล้อมต้นโพธิ์นั้นไว้อย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันมิให้ศัตรูเข้ามาทำลายได้อีกต่อไป ต้นโพธิ์ต้นนี้มีอายุยืนนานมากประมาณ 1,258 ถึง 1,278 ปี ก็ถูกพายุพัดโค่นล้มตาย
ต้นโพธิ์ต้นที่ 4 ในปี 2443 ท่านนายพลเซอร์คันนิ่งแฮม ผู้เชี่ยวชาญทางโบราณคดีชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้มีคุณูปการต่อพระพุทธศาสนามาก ได้ขุดค้นพบพุทธสถานหลายแห่ง จนทำให้พระพุทธศาสนาเป็นที่รู้จักของชาวอินเดีย หลังจากลืมเลือนไปแล้วกว่า 800 ปี ได้เดินทางไปที่พุทธคยา พบกับต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ล้มอยู่ แต่ได้พบหน่อโพธิ์งอกอยู่ที่ใต้ต้นเดิม 2 หน่อ หน่อหนึ่งสูง 6 นิ้ว ได้ปลูกไว้ที่บริเวณต้นเดิม อีกหน่อหนึ่งสูง 4 นิ้ว แยกไปปลูกไว้ในที่ไม่ไกลจากต้นเดิมทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ห่างกัน 250 ฟุต
ท่านนายพลเข้าใจว่าสถานที่ท่านนำต้นโพธิ์ต้นหลังไปปลูกนั้น เป็นสถานที่ที่พระตถาคตเสด็จประทับยืนทอดพระเนตรจ้องดูต้นโพธิ์ที่พระองค์ประทับตรัสรู้ตลอด 7 วัน ที่พวกเรานิยมเรียกกันว่า อนิมิสเจดีย์ แต่ความเห็นนี้ไม่ตรงตามพระบาลีและคนส่วนมากเข้าใจกัน เพราะตามพระบาลีนั้นกล่าวไว้ว่าอนิมิสเจีย์อยู่ทางทิศตะวันออกของต้นโพธิ์ อายุต้นโพธิต้นนี้นับจากเริ่มปลูก ปี 2423-2550 รวมอายุได้ 127 ปี
+++++++++++++++++++++++++++++++++++

“ต้นพระศรีมหาโพธิ์” ณ พุทธคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย
สถานที่ตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ซึ่งยืนต้นอยู่เหนือพระแท่นวัชรอาสน์ หรือโพธิบัลลังก์
ในปัจจุบันนี้นับเป็นต้นพระศรีมหาโพธิ์ หน่อหรือต้นที่ ๔
ได้ชื่อว่าเป็นต้นโพธิ์ที่มีความสำคัญและศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวพุทธ
สถานที่ตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ซึ่งยืนต้นอยู่เหนือพระแท่นวัชรอาสน์ หรือโพธิบัลลังก์
ในปัจจุบันนี้นับเป็นต้นพระศรีมหาโพธิ์ หน่อหรือต้นที่ ๔
ได้ชื่อว่าเป็นต้นโพธิ์ที่มีความสำคัญและศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวพุทธ
Titanium Pen (Aceron) | TITanium Art - Tinanium
ตอบลบTIPTEN® – This one is a 2-piece art ford ecosport titanium knife and will be very sharp. It bet365 will samsung galaxy watch 3 titanium be small diameter and heavy in diameter, so make sure you have microtouch titanium trim as seen on tv a plastic titanium septum ring handle.
pb920 Cheap Jerseys from china,cheap jerseys,wholesale jerseys,cheap jerseys,nfl shop,nfl jerseys,cheap nfl jerseys,nfl jerseys,Cheap Jerseys free shipping fu899
ตอบลบ